AI มาแรงใช้ตอบคำถามได้อย่างรวดเร็วแบบนี้ SEO Is Dead แน่นอน! แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้ยินคำนี้ หลายครั้งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี SEO มักกลายเป็นเป้าเสมอ เนื่องจากมีต้นทุนในการทำที่สูงในช่วงแรก และจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่องห้ามหยุด จนหลายคนอาจเชียร์ให้ SEO ล้มหายไปจากระบบการตลาดเสียที วันนี้พวกเราทีม My Boost SEO จะมาอธิบายเกี่ยวกับการอยู่รอดของการทำ SEO แบบสรุปให้เองครับ
SEO Is Dead คืออะไร ทำไมจึงเป็น Meme
“SEO Is Dead” มีความหมายว่า “การทำ SEO กำลังจะตาย หมดความสำคัญลงไป” เป็นคำล้อเลียนที่พูดถึงกันมาเรื่อย ๆ นับ 10 ปี ทุกครั้งที่โลกออนไลน์มีนวัตกรรมเกี่ยวกับการตลาดใหม่ ๆ ปรากฏขึ้น คำว่า SEO Is Dead ก็มักจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเสมอ ประมาณว่า “สิ่งนี้แหละจะมาทำให้ SEO หายไปแน่นอน” หรือ “จะมาแทนที่ SEO แน่นอน” หรือ “การจัดอันดับ SEO ไม่สำคัญแล้ว เพราะสิ่งนี้” เป็นต้น
แล้วทำไม SEO Is Dead จึงเป็น Meme ตลก ๆ ไปได้? คำตอบ คือ ทุกครั้งที่มีการพูดถึงคำนี้ในช่วงที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่เป็นจริงเลยสักครั้ง เนื่องจากคำนี้มักถูกพูดจากปากผู้ที่ไม่ได้มีประสบการณ์ทำ SEO จริง ๆ หรือมาจากปากคนที่ไม่เข้าใจ SEO อย่างแท้จริงนั่นเองครับ และคำนี้ก็เป็น Meme อีกครั้ง เมื่อการมาถึงของ AI ที่ช่วยตอบคำถาม และช่วยเขียนบทความได้ แต่สุดท้าย SEO ก็ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีเพียงการเปลี่ยนแปลงแนวทางของการทำ SEO และขั้นตอนการทำงานที่รวดเร็วขึ้นเท่านั้นครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง : จริงไหม AI ทำให้ SEO ง่ายขึ้น มาไขคำตอบกัน
ทำไม SEO Still Alive ในยุคทองของ AI
เนื่องจากกระบวนการตอบคำถามของ AI ก่อนที่เจ้า AI จะตอบเราอย่างรวดเร็ว ระบบจะทำการเรียนรู้ข้อมูลตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งนั่นรวมถึงเว็บไซต์ที่ติดอันดับ และมีความน่าเชื่อถือด้วยนั่นเองครับ สุดท้ายแล้วเว็บไซต์ที่มีการทำ SEO จนไปติดหน้าแรก มีเนื้อหาที่ครอบคลุม จะมีความน่าสนใจในการนำมาตอบคำถามของ AI นั่นเองครับ จึงสรุปได้ว่า SEO Is Not Dead แต่แนวทางการทำ SEO มีการปรับเปลี่ยนให้ “ทำอย่างไรให้ AI นำเนื้อหาของคุณไปตอบคำถามผู้ใช้งาน และได้เครดิตแหล่งอ้างอิง” นั่นเองครับ
SEO จะยังอยู่รอดต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
ประเด็นเรื่องที่ว่าการทำ SEO จะยังจำเป็นอยู่หรือไม่ในอนาคต คุณต้องเข้าใจเรื่องของการทำ SEO ให้ลึกก่อนครับ การทำ SEO ไม่ใช่เพียงแค่ทำเว็บไซต์ให้ติด Search Engine อย่าง Google เท่านั้น แต่หมายถึงการปรับแต่งส่วนอื่น ๆ ด้วย เช่น โพสต์ Facebook (Meta), การปรับแต่งวิดีโอ TikTok และการปรับแต่งวิดีโอ YouTube เป็นต้น และเป้าหมายของการทำ SEO ในตอนนี้มันคือการอยู่ร่วมกันกับ AI โดยเปลี่ยนจาก SEO ที่เป็นผู้ให้คำตอบโดยตรง มาเป็นตัวกลางในการให้คำตอบผ่าน AI แทนนั่นเอง หากผู้ใช้งานรู้สึกว่าการให้คำตอบโดยมีเว็บไซต์ของคุณเป็นหนึ่งในแหล่งอ้างอิงเป็นคำตอบที่ดี เว็บไซต์ของคุณจะถูก AI จดจำตามไปด้วยว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่ยอดเยี่ยมนั่นเองครับ
ดังนั้นการทำ SEO ในยุคใหม่ หรือที่ทีมของเราเรียกว่า “Modern SEO” จึงต้องให้ความสำคัญของเนื้อหาในบทความที่ต้องมั่นใจว่าสามารถให้คำตอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตรงจุด และต้องมีคุณภาพแบบนี้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ประกอบกับการทำการตลาดผ่านช่องทางอื่น ๆ เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของบริษัท หรือการทำ Branding เพื่อให้ AI หันมาให้ความสนใจ และมีโอกาสนำข้อมูลไปให้ผู้ใช้งานมากขึ้นด้วยครับ
สรุป
คำว่า SEO Is Dead ถือเป็น Meme ที่เราได้ยินเกือบตลอด ไม่ต่างจากการที่เราเชื่อว่ามี Platform Social Media จะมาล้ม Facebook (Meta) ทุกปีนั่นแหละครับ การทำ SEO เป็นสิ่งที่กระจายครอบคลุมอยู่รอบตัวเรามากกว่าที่เห็น ถึงทิศทาง และแนวทางในการทำงานจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ในมุมมองของพวกเราทีม My Boost SEO มั่นใจว่า SEO จะยังคงอยู่ต่อไป แต่ขึ้นอยู่กับว่าในอนาคตมันจะอยู่รอดในรูปแบบอะไรเท่านั้นเอง
ทีมของเรา My Boost SEO เป็นทีม SEO ที่มีความชำนาญในการทำ Modern SEO ให้ความสำคัญกับคุณภาพของบทความ SEO โดยทุกบทความถูกเขียนขึ้นโดยคำนึงถึงผู้อ่านว่าผู้อ่านต้องการอะไรอย่างแท้จริง หากคุณต้องการให้ทีมของเราช่วยดูแลการทำ SEO ของธุรกิจคุณ สามารถติดต่อเราได้ครับ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ที่มาข้อมูล/แหล่งอ้างอิง